วัดไทยไอซ์แลนด์
ความเป็นมา
วัดกับความเป็นชาวไทยคงแยกกันไม่ออก เพราะเมื่อคนไทยอยู่แห่งใดมักสร้างวัดขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการกิจกรรม พบปะ และรวมกลุ่มเพื่อแสดงออกซึ่งความศรัทธา และความเชื่อต่อพระพุทธศาสนาด้วยเช่นกัน
วัดไทยไอซ์แลนด์ได้เกิดขึ้นจากการที่พระภิกษุชาวอังกฤษนามว่า พระอาจารย์โรเบิร์ต ธมฺมานนฺโท ชาวอังกฤษ ที่บวชปฏิบัติธรรมตามแนวสายวัดอมรวดี ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีพระอาจารย์ชาคโรเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น โดยท่านเป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อชา สุภทฺโท แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี
พระอาจารย์โรเบิร์ต ธมฺมานนฺโท ซึ่งได้รู้จักคุณหมอชาวไอซ์แลนด์ทางสื่อออนไลน์ ได้ติดต่อสื่อสารกันเป็นที่รู้จักอัธยาศัยกันดีแล้ว จึงได้ชักชวนให้ทัศนะศึกษา ที่ประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อพระอาจารย์โรเบิร์ตท่านเดินทางมาถึง ด้วยความบังเอิญได้พบคนไทยซึ่งแต่งงานและติดตามครอบครัวมาตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพในประเทศไอซ์แลนด์ จึงได้พูดคุยกับพบปะกับชุมชนคนไทยที่นี่ จึงได้มีการนิมนต์พระอาจารย์โรเบิร์ต ธมฺมานนฺโท ให้อยู่จำพรรษา และจัดสร้างวัดต่อไป ซึ่งท่านก็ได้ตอบรับ กิจกรรมชาวพุทธ รวมถึงความเป็นชาวพุทธ ชาวไทยจึงได้เกิดขึ้น
พุทธสมาคมแห่งประเทศไอซ์แลนด์
เมื่อท่านตกลงที่จะอยู่จำพรรษาแล้ว พระอาจารย์โรเบิร์ตจึงได้ศึกษาช่องทาง ความเป็นไปได้ และได้ทราบแนวทางพร้อมทั้งกฏหมาย จึงได้รวมกลุ่มกันจัดตั้ง พุทธสมาคมแห่งประเทศไอซ์แลนด์( búddisfafélag Íslands) เมื่อ ค.ศ.1995 (พ.ศ.2539) เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมายและเป็นองค์กรกลางในการทำกิจกรรมของชาวพุทธในประเทศไอซ์แลนด์ได้ โดยได้เชื้อเชิญชาวพุทธจากประเทศต่าง ๆ เช่น ชาวพุทธศรีลังกา ชาวพุทธไทย ชาวพุทธเวียดนาม ชาวพุทธจีน รวมไปถึงชาวพุทธไอซ์แลนด์ ให้ร่วมเป็นสมาชิกพุทธสมาคม เพื่อดำเนินการจัดตั้งให้เป็นพุทธสมาคมตามที่กำหนด จนได้สมาชิกจำนวนมาก นับจนกระทั่งปัจจุบันมีสมาชิกชาวพุทธกว่า 1 พันคน และผู้สนใจเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามีจำนวนมาก
วัดพุทธแห่งประเทศไอซ์แลนด์
เมื่อตกลงกันในเรื่องการจัดตั้งได้แล้วขั้นต่อไปคือการจัดหาอาคารสำหรับให้พระสงฆ์ ได้อยู่อาศัยเพื่อจำพรรษา จึงได้มีการเช่าอาคาร(ชั่วคราว) จัดเป็นวัดเพื่อให้พระสงฆ์ได้อยู่จำพรรษา และเป็นศูนย์กลางในการพบปะ สนทนาธรรม ปฏิบัติธรรมของชาวพุทธไทยในประเทศไอซ์แลนด์ รวมทั้งได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จากศรีลังกา เวียดนาม รวมทั้งพระปลัดเกษม เขมจิตฺโต* พระไทยมาอยู่จำพรรษา และรักษาศรัทธาชาวพุทธในประเทศไอซ์แลนด์
(*ดำรงสมณศักดิ์ พระครูเจ้าอาวาสวัดราษฏร์ ชั้นโทในพระราชทินนามที่
พระครูสุพัฒนเขมคุณ )
จากสภาพการณ์ดังกล่าวพระพุทธศาสนาในประเทศไอซ์แลนด์ ได้มีพัฒนาการและก่อให้เกิดความเข้มแข็งในชุมชนชาวพุทธในประเทศไอซ์แลนด์ ตลอดช่วงเวลาของการเริ่มต้นและบุกเบิกเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในประเทศไอซ์แลนด์
วัดไทยไอซ์แลนด์
พระมหาประสิทธิ์ สิรินฺธโร 2543 ถึงปัจจุบัน
สังกัดเดิมวัดพระไกรศรี(น้อย) กรุงเทพ ฯ
พระมหาประสิทธิ์ สิรินฺธโร จึงได้เปลียนแปลงรูปแบบต่าง ๆ ตามที่เหมาะสมโดยได้มีการจัดตั้งเป็นวัดไทยไอซ์แลนด์ และเป็นประธานจัดซื้ออาคาร(บ้าน) เพื่อจัดทำเป็นวัด ถาวรใน พุทธศักราช 2546 (ค.ศ.2003) ที่เมืองโคปาโวก ขนาด 980 ตรม. ประกอบด้วยอาคารพร้อมที่ดิน ภายในมีห้องสำหรับใช้สอย จำนวน 7 ห้อง ประกอบด้วยที่พักสงฆ์ สำนักงาน ห้องพักรับรอง และห้องประชุมใหญ่สำหรับสวดมนต์และทำกิจของชาวพุทธ พร้อมทั้งอาคารโรงรถที่อยู่คนละส่วนกับตัวอาคาร เมื่อจัดซื้อแต่เดิมราคาอาคารพร้อมที่ดิน 24.5 ล้านโครน (ประมาณ 13 ล้านบาท) ปัจจุบัน ตัวอาคารที่ตั้งวัด และที่ดิน มีราคาประเมิน 60 ล้านโครน(ประมาณ 30 ล้านบาท) อนึ่งวัดได้ชื้อผ่อนชำระอาคาร
กับธนาคาร เงินเริ่มต้นจำนวน 2500000 (สองล้านห้าแสนโครน) และค่าสัญญาต่างๆ
จำนวน 1 ล้านโครน (ยังผ่อนชำระกับธนาคารทั้่งต้นและดอก )
เมื่อ พ.ศ.2550 ได้มีการปรับปรุงอาคาร เช่น การทาสี ทำรั้วใหม่ ซ่อมบำรุงในส่วนที่ชำรุด วางระบบท่อน้ำ วางระบบไฟ 3 เส้น สิ้นเงินจำนวน 3.5 ล้านโครน โดยเป็นเงินที่ได้จากคณะศรัทธาชาวพุทธในประเทศไอซ์แลนด์และงบสนับสนุนจากรัฐบาล
เมื่อได้จัดซื้ออาคารเรียบร้อยแล้วจึงได้ตั้งชื่อว่า วัดไทยไอซ์แลนด์ และบริหารงานผ่าน พุทธสมาคมแห่งประเทศไอซ์แลนด์ วัดจึงได้ก่อตัวเป็นปึกแผ่นและดำเนินกิจกรรมสำหรับพี่น้องชาวพุทธทั้งชาวไทย และต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบัน
กิจกรรมงานประจำ
- จัดทำบุญเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และเนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา ออกพรรษา
- จัดกิจกรรมและทำบุญเนื่องในวันเทศกาลของไทย อาทิ วันสงกรานต์ วันลอยกระทง เป็นต้น
- จัดกระทำบุญเนื่องในวันสำคัญของประเทศไทย เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินนีนาถ วัดเทศกาลปีไหม่ เป็นต้น
กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
พ.ศ.2546 ทางวัดไทยไอซ์แลนด์ โดยพระมหาประสิทธิ์ สิรินฺธโร ซึ่งเข้ามาอยู่ดูแลวัดได้มองเห็นปัญหาของคนไทยในประเทศไอซ์แลนด์ ในเรื่องของหนังสือเดินทาง เอกสารราชการ ซึ่งยุ่งยากและลำบากในการติดต่อ จึงได้ประสานกับทางสถานทูตไทยประจำเดนมาร์ก เพื่ออำนวยความสะดวกกับพี่น้องไทย ในเรื่องหนังสือเดินทางและเอกสารราชการ จึงได้ โครงการกงสุลสัญจร ขึ้นที่วัดไทย ปีละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องมาจนกระทั่งปัจจุบัน เป็นปีที่ 6 แล้ว ใน พ.ศ.2551
พ.ศ.2546 ได้ริเริ่มส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีตามแนวพุทธ โดยการจัดตั้งด้านกีฬา โดยจัดตั้ง ทีมฟุตบอลวัดไทยไอซ์แลนด์ โดยได้สนับสนุนอุปกรณ์กีฬา ชุด และด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น พร้อมทั้งได้นำทีมนักฟุตบอลยุวชนที่ส่งเสริมไปแข่งขันฟุตบอลประเพณี เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ เช่น เดนมาร์ก เยอรมัน สวีเดน นอร์เวย์ เป็นต้น ในงานฟุตบอลประเพณีของประเทศเดนมาร์ก ซึ่งจัดโดยพุทธสมาคมเดนมาร์ก เป็นประจำทุกปี นับเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันจนกระทั่งปัจจุบัน
พ.ศ.2546 ได้ริเริ่มและส่งเสริมให้จัด โครงการอบรมด้านวิชาชีพแก่คนไทย เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะในการประกอบอาชีพแก่คนไทยในประเทศไอซ์แลนด์ ให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือเฉพาะด้านมากขึ้น อาทิ การประกอบอาหารไทยอย่างถูกหลักโภชนาการ ทำขนมไทย งานฝืมือ งานแกะสลัก เป็นต้น ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทยเป็นอย่างมาก ในการนำไปพัฒนาฝีมือ และประกอบอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อคนไทยในต่างแดน โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางในการทำกิจกรรมดังกล่าว จำนวน 3 ปี จากคณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
พ.ศ. 2549 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2549 ได้จัดงานเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวโรกาสวันแม่แห่งชาติ จึงได้จัดงาน
โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการส่งเสริมความสามัคคีของคนไทยในไอซ์แลนด์ และเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชนีนาถ รวมกับทุกภาคส่วนทั้งกงสุลไทย พุทธสมาคม สมาคมไทย และร้านอาหารไทย โดยลักษณะงานเป็นการจัดให้เข้างานฟรีทุกเพศทุกวัย โดยในงานเปิดฟรี และรับประทานอาหารฟรีตลอดงาน มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2000 คน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ
พ.ศ.2550 ได้จัดงานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองราชครบ 60 ปี โดยมีลูกหลานไทยต่างแดนเข้ารับการบรรพชาจำนวน 13 รูป/คน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความจงรักภักดี ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการส่งเสริมความสามัคคีสำหรับชาวไทยชาวพุทธ และปลูกฝังเจตคติที่ดีต่อลูกหลานไทยในประเทศไอซ์แลนด์ตามแนวทางพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนาที่อยู่ในประเทศไอซ์แลนด์
นอกจากนี้ยังได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประธานอุปถัมภ์โครงการ ได้ประทานผ้าไตรร่วมในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนในครั้งนี้ด้วย
พ.ศ. 2550 เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ มีพระชนมายุครบ จึงได้ดำริจัดงานวันแม่แห่งชาติ และวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการส่งเสริมความสามัคคีของคนไทยในไอซ์แลนด์ และเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชนีนาถ รวมกับทุกภาคส่วนทั้งกงสุลไทย พุทธสมาคม สมาคมไทย และร้านอาหารไทย โดยลักษณะงานเป็นการจัดให้เข้างานฟรีทุกเพศทุกวัย โดยในงานเปิดฟรี และรับประทานอาหารฟรีตลอดงาน มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2000 คน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ
พ.ศ.2551 ได้จัดงานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนครั้งที่ 3 เพื่อเป็นการอุทิศถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา โดยมีผู้เข้ารับการบรรพชาจำนวน 7 รูป/คน พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมลูกหลานไทยให้เข้าใจและเป็นยุวชนรุ่นใหม่ในการรักษาและส่งเสริมพระพุทธศาสนานในอนาคต พระมหาประสิทธิ์ สิรินฺธโร ประธานพุทธสมาคม เป็นประธานจัดงาน โดยมีกงสุลไทยประจำประเทศไอซ์แลนด์เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
พร้อมกันนั้นยังได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประธานอุปถัมภ์โครงการ ได้ประทานผ้าไตรร่วมในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เพื่อเป็นการอุทิศถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ฯ ในครั้งนี้ด้วย
พ.ศ.2551 ได้จัดโครงการปฏิบัติธรรมวันแม่ เฉลิมพระเกียติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาราชินี โดยได้เชิญแม่ชีศันศนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถานมาเป็นวิทยากรพิเศษ มีผู้เข้าร่วมการปฏิบัติธรรมกับทางวัดไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 350 คน/ท่าน ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจและทัศนคติที่ดีต่อพระพุทธศาสนา โดยวิทยากรพิเศษได้รับเชิญไปประชาสัมพันธ์พระพุทธศาสนาทางสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุในช่วงระยะเวลาที่เข้ามากระทำกิจกรรมร่วมกับชาวไทยและชาวพุทธในประเทศไอซ์แลนด์
พ.ศ.2551 โครงการขยายสาขาวัดไทยไอซ์แลนด์ ได้มีการส่งพระภิกษุในวัดไทยไปจำพรรษา ณ จังหวัดอาคูเรยรี ซึ่งเป็นจังหวัดทางเหนือ ห่าง 400 กิโลเมตร เพื่อเป็นการรักษาศรัทธา และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างชาวพุทธ ชาวไทย และเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติธรรม การเรียนรู้พระพุทธศาสนา และกระทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างชาวพุทธในจังหวัดอาคูเรยรี และใกล้เคียง
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อชาวพุทธคือ
- ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมแก่ชาวต่างชาติที่สนใจในพระพุทธศาสนาโดยจะใช้วัดเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
- เปิดให้มีการนำคณะนักเรียนคณะต่าง ๆ เข้าเยี่ยมชมวัดและให้ความรู้เบื้องต้นทางพระพุทธศาสนาแก่คณะต่าง ๆ ตลอดทั้งปี
- ส่งเสริมให้ชาวพุทธศรีลังกาจะมาร่วมประกอบพิธีกรรมและสวดมนต์ตามแบบลังกาต่อเนื่องเสมอมา
- ประสานงานทางด้านเอกสารทางราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกกับพี่น้องชาวไทยในประเทศไอซ์แลนด์แก่หน่วยงานราชการ เช่น กงสุลไทย สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเดนมาร์ก เป็นต้น
- อนุญาตให้ใช้สถานที่ของวัดกระทำกิจกรรมสำหรับพี่น้องชาวพุทธในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เช่น เรียนทำอาหารไทย ฝึกอาชีพ รวมทั้งกงสุลสัญจรทุกครั้ง เป็นต้น
เกียรติคุณที่ได้รับ
พ.ศ.2548 ประธานพุทธสมาคมในฐานะเป็นประธานในการดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ก่อตั้งให้เป็นวัดไทย ในประเทศไอซ์แลนด์ และดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ตลอดมา จึงได้รับการยกย่อง และมอบเกียรติคุณให้ โดยได้เข้ารับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ จากสมเด็จพระเทพพระรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาประจำพุทธศักราช 2548 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
พ.ศ.2550 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเทียบผู้ช่วยอารามหลวงชั้นเอก พระราชทินนามที่ พระครูวิเทศสิริธรรม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติบัติศาสนกิจยังต่างแดนในฐานะพระธรรมทูตไทยในประเทศไอซ์แลนด์ ทำให้วัดและพระพุทธศาสนาในประเทศไอซ์แลนด์มีความเป็นปึกแผ่น ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มของชาวพุทธในประเทศไอซ์แลนด์อย่างเป็นปกติและต่อเนื่อง
คณะที่เข้ามาเยี่ยมชุมชนคนไทยและวัดไทยไอซ์แลนด์
1.สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ได้มาศึกษาดูงานยังประเทศไอซ์แลนด์ และได้พบปะชุมชนคนไทยในประเทศไอซ์แลนด์ พร้อมทั้งได้ดำริจัดสร้างวัดพร้อมทั้งเป็นองค์อุปถัมภ์สร้างวัดไทยในประเทศไอซ์แลนด์(กำลังดำเนินการ) ให้กับชุมชนคนไทยในประเทศไอซ์แลนด์
2. คณะของพระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว) วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี มาเยี่ยมชมแนวทางการดำเนินกิจกรรมและเผยแผ่พระพุทธศาสนาของวัดไทยไอซ์แลนด์ และพบปะพี่น้องชาวพุทธไทยในประเทศไอซ์แลนด์
3. พระธรรมกิตติวงษ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรส พระธรรมสิทธินายก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกษ คณะนายกเทศมนตรีทั่วประเทศ คณะพระสงฆ์จากยุโรป พณฯท่านเอกอัคราชทูตประจำกรุงโคเปนเฮเกน นายอดิศักดิ์ ภาณุพงษ์ฯ และท่านทูตพาณิย์ อาจารย์ศรีสมร คงพันธ์
4. คณะแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ประธานผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน กทม. ได้มานำปฏิบัติธรรมเนื่องในเทศกาลวันแม่แห่งชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพบปะเยี่ยมเยียนคนไทยในประเทศไอซ์แลนด์
5.คณะศ.ดร.รังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิบการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้าพบปะเยี่ยมเยียนคนไทยที่วัดไทยไอซ์แลนด์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดการศึกษาทางไกล เพื่อมองผลในเรื่องการศึกษาของชาติ และมีการจัดตั้งศูนย์วิทยบริการกรุงเรกยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการศึกษาทางไกลแก่พี่น้องชาวไทยในประเทศไอซ์แลนด์
ฯลฯ
ที่ตั้งและและสถานที่ติดต่อ
ในปัจจุบันวัดไทยไอซ์แลนด์ได้ทำสัญญาจัดซื้ออาคารถาวร ในนามพุทธสมาคม ให้เป็นวัดในราคาประเมิน 60 ล้านโครน (ซึ่งยังคงผูกพันผ่อนชำระกับทางธนาคาร) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางและทำกิจกรรมแก่ชุมชนชาวพุทธในประเทศไอซ์แลนด์เรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน
พี่น้องชาวพุทธประสงค์ติดต่อ หรือให้ความอุปถัมภ์วัดไทยไอซ์แลนด์ให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาในประเทศไอซ์แลนด์ได้ที่
วัดไทยไอซ์แลนด์ búddisfafélag Íslands víghólastigur 21,200 kópavogur Iceland e-mail : watthaiiceland@hotmail.com website : www.watthaiiceland.net
tel:00354+5640315 fex:00354+5640314