ทางการเตือน ปชช. ให้อพยพออกนอกพื้นที่โดยด่วน นักวิทยาศาสตร์เชื่อยังไม่ทำให้ธารน้ำแข็งที่อยูใกล้ละลาย
เกิดเหตุภูเขาไฟในทางใต้ของไอซ์แลนด์ปะทุเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 200 ปี ทำให้เกิดความวิตกว่า จะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ โดยภูเขาไฟอายาฟรียาพลายูร์คุล ตั้งอยู่ใกล้ธารน้ำแข็งชื่อเดียวกัน ได้พ่นเถ้าถ่านและลาวาเหลวขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า การปะทุครั้งนี้ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง หรือใกล้เกิดอันตรายว่า ธารน้ำแข็งจะละลาย จนก่อให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ทางการได้ส่งข้อความสั้นทางมือถือไปยังประชาชนจำนวน 450 คนที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟลูกนี้ระหว่างหมู่บ้านโวลส์โวลลูร์ กับหมู่บ้านประมงวิค ที่อยู่ห่างจากกรุงเรยะวิกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 160 กิโลเมตร
March 22, 2010, 09:28:31 AM »
|
|
อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ภูเขาไฟเกิดปะทุขึ้นหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้องปิดการจราจรบริเวณโดยรอบ
ภูเขาไฟไอซ์แลนด์ปะทุก่อให้เกิดปากปล่องแห่งใหม่
เอเจนซี - สถานีวิทยุของไอซ์แลนด์เผย ภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็ง ที่ปะทุพ่นฝุ่นควัน และเถ้าถ่านภูเขาไฟ ทางตอนใต้ของประเทศ ก่อให้เกิดปากปล่องภูเขาไฟที่พ่นลาวาขึ้นใหม่ และกำลังขยายตัวขึ้นไปทางตอนเหนือ
ภูเขาไฟ ซึ่งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งเอยาฟจาลาโยคูลล์ ได้เริ่มปะทุขึ้นเมื่อ 10 วันก่อน ทำให้ประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพหนีอันตรายจากบริเวณดังกล่าว และยังทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางการบิน
สถานีวิทยุของทางการไอซ์แลนด์เผยว่า เกิดรอยแยกใหม่ยาวประมาณ 300 เมตรในบริเวณดังกล่าว ซึ่งนักธรณีวิทยาเชื่อว่ารอยแยกนี้อาจขยายขึ้นไปทางเหนือ ถึงเขตอนุรักษ์ธรรมชาติธอร์สมอร์ก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมด้วย
วิดีร์ การ์ดาร์สสัน แห่งสำนักงานป้องกันพลเรือนในกรุงเรกยะวิค กล่าวกับหนังสือพิมพ์มอร์กอนบลาดิดว่า รอยแยกที่เกิดขึ้นใหม่ยังคงขยายออกไปเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังประเมินสถานการณ์ และมาตรการความปลอดภัย
ขณะที่ตำรวจประเมินว่าจะมีผู้คนร่วม 25,000 คนเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวในช่วงไม่กี่วันนี้
ไอซ์แลนด์ตั้งอยู่บนจุดแผ่นดินไหวในแนวมหาสุทรแอตแลนติกตอนกลาง และมีแนวโน้มเกิดการระเบิดมาก แต่ส่วนใหญ่จะเกิดในพื้นที่ที่มีประชากรอยู่เบาบาง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต หรือทรัพย์สิน โดยภูเขาไฟระเบิดครั้งล่าสุดในปี 2004
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้จับตาดูธารน้ำแย็งเอยาฟจาลาโยคูลล์ ซึ่งสงบมาตั้งแต่ปี 1821 หลังจากพบสัญญาณของการปะทุ แต่ชี้ว่าระดับการเตือนภัยยังเล็กน้อยก่อนที่จะมีการปะทุล่าสุด
March 22, 2010, 09:28:31 AM »
|
|
นอกจากเถ้าถ่านจำนวนมากมายมหาศาลที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในประเทศ ไอซ์แลนด์ จะส่งผลเสียหายปั่นป่วนต่อการจราจรทางอากาศทั่วทวีปยุโรปแล้ว รอยเตอร์ได้รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยังก่อให้เกิดมุขตลกขึ้นมา ในหมู่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอีกด้วย
ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์เพิ่งประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และมีเรื่องราวขัดแย้งกับสหราชอาณาจักรและเนเธอร์แลนด์ เกี่ยวกับหนี้สินอันเกิดจากธนาคารชั้นนำของประเทศที่ต้องล้มละลาย
เรื่องราวความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อ ไอซ์แลนด์ตกเป็นลูกหนี้ของทั้งสองประเทศเป็นจำนวนเงิน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 160,000 ล้านบาท อันเนื่องมาจากความล้มเหลวในการเปิดบัญชี "ไอซ์เซฟ" เพื่อระดมเงินจากประชาชนจำนวนมากมาใช้ชำระหนี้ของประเทศ เพราะประชาชนชาวไอซ์แลนด์ต่างพากันปฏิเสธที่จะช่วยรัฐชำระหนี้ผ่านการฝาก เงินในบัญชีดังกล่าว ด้วยเหตุผลว่าผู้จ่ายภาษีไม่ควรต้องชำระ หนี้สินจำนวนมหาศาลที่ก่อขึ้นโดยธนาคารเอกชน
เมื่อเรื่องราวความขัดแย้งในประเด็นหนี้สินดังกล่าวต้องถูกปกคลุม ด้วยเถ้าถ่านจากการระเบิดของภูเขาไฟ จึงก่อให้เกิดมุขตลกใช้หนี้ตามมา เช่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งซึ่งทวิตข้อความว่า "คน ไอซ์แลนด์ได้จ่ายภาษีให้แก่คนอังกฤษและคนดัทช์แล้ว : ลืมเรื่องไอซ์เซฟไปซะ แต่จงจุมพิตกับเถ้าถ่านภูเขาไฟของพวกเราแทน!"
ขณะที่เจเรมี วอร์เนอร์ ผู้ช่วยบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ "เด อะ เดลี่ เทเลกราฟ" ในอังกฤษ ก็ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเว็บล็อกส่วนตัวโดยระบุถึงเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด ครั้งนี้ว่า "เป็นการชำระแค้นจากไอซ์แลนด์ เพราะประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ย่อมไม่มีหนทางแก้แค้นแบบใดที่จะทรงประสิทธิภาพและสามารถเล่นงานประเทศใหญ่ ๆ ได้อย่างอยู่หมัด มากไปกว่าการระเบิดของภูเขาไฟ"
"แม้ไม่มีมาตรการกีดกันทางการค้า แต่เขาก็สามารถแข่งขันกับพวกคุณได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ" ผู้ช่วยบก.หนังสือพิมพ์ในอังกฤษ แสดงความเห็น
ขณะเดียวกันก็มีผู้โพสต์ข้อความเชิงขำขันในอินเตอร์เน็ตเช่นกันว่า "เราบอกว่าให้ส่งเงินสด (cash) กลับคืนมา ไม่ใช่เถ้าถ่านภูเขาไฟ
นที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 21:00:32 น. มติชนออนไลน์
ภูเขาไฟ"ไอซ์แลนด์"ปะทุอีกรอบ หลายชาติปิดสนามบินอีกครั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เที่ยวบินที่เดินทางออกจากยุโรปส่วนใหญ่จะสามารถกลับมาบินได้ตามปกติในวัน ที่ 20 เมษายน ภายใต้ข้อตกลงที่จะเปิดพื้นที่การบินเพิ่มขึ้น แม้ว่ากลุ่มควันเถ้าถ่านภูเขาไฟจำนวนมากจะยังคงปกคลุมน่านฟ้าอยู่ แต่การปะทุอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงของภูเขาไฟอัยยาฟยาปลาเยอคูห์ดูห์ลของไอซ์ แลนด์ส่งผลคุกคามต่อความพยายามในการแก้ปัญหาครั้งนี้
หน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศของอังกฤษเตือนว่า กลุ่มควันเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นอีกรอบกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นทางการบิน หลักของอังกฤษหลายเส้นทาง ทำให้สายการบินบริติช แอร์เวย์สต้องยกเลิกเที่ยวบินระยะสั้นหลายเที่ยวบิน ขณะที่หลายประเทศต้องตัดสินใจปิดสนามบินอีกครั้ง หรือไม่ก็ควบคุมพื้นที่การใช้น่านฟ้าของตน เช่นโปแลนด์ที่เพิ่งกลับมาเปิดใช้สนามบิน 4 แห่งในวันที่ 19 เมษายน ต้องปิดทั้ง 4 แห่งอีกครั้งในวันที่ 20 เมษายน และยังต้องปิดน่านฟ้าทางตอนเหนือของประเทศจากเที่ยวบินแวะพักอีกด้วย
ขณะที่ฮังการีปิดน่านฟ้าบางส่วนทางตะวันตกในระดับที่ต่ำกว่า 20,000 ฟุต (6,000 เมตร) เนื่องจากมีปริมาณของควันเถ้าถ่านภูเขาไฟจำนวนมาก เช่นเดียวกับไอร์แลนด์ที่ระบุว่าการปะทุอีกรอบของภูเขาไฟทำให้พวกเขาต้อง ขยายเวลาปิดน่านฟ้าออกไปอีกจนถึงเวลา 12.00 น.ของวันที่ 20 เมษายนเป็นอย่างน้อย (ตรงกับเวลา 20.00 น. ในประเทศไทย)
ข่าวระบุว่า รายละเอียดว่าทางการของยุโรปหลายประเทศกำหนดพื้นที่น่านฟ้าว่าเขตไหนที่ สามารถอนุญาตให้บินได้และเขตไหนห้ามบินนั้นยังคงคลุมเครืออยู่ และหลายประเทศยังหันมาใช้มาตรการที่เน้นความระมัดระวังมากขึ้นอีกด้วย โดยหน่วยงานจัดการจราจรทางอากาศอังกฤษ หรือแนทส์ เปิดเผยว่า กลุ่มควันเถ้าถ่านจากการปะทุครั้งใหม่นี้กำลังถูกพัดมาทางอังกฤษ ทำให้การแก้ปัญหาที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง อีกรอบอย่างรวดเร็ว
นายซีม คัลลาส กรรมาธิการยุโรปด้านการขนส่ง เปิดเผยหลังการประชุมหารือกันทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของรัฐมนตรีคมนาคมของ กลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ว่าจะมีเที่ยวบินที่สามารถบินได้มากขึ้นในวันที่ 19 เมษายน เพื่อเป็นการบรรเทาสถานการณ์ที่การสัญจรทางอากาศเป็นอัมพาตมานาน 5 วัน ทำให้มีผู้โดยสารติดค้างอยู่หลายล้านคน โดยมีเที่ยวบินหลายเที่ยวที่สามารถออกเดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในช่วงเย็นวันที่ 20 เมษายน
ทั้งนี้ คัลลาสระบุว่า ภายใต้ข้อตกลงของที่ประชุมรัฐมนตรีขนส่งอียูซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลา 13.00 น.ของวันที่ 20 เมษายนตามเวลาไทย พื้นที่โดยรอบบริเวณใกล้เคียงภูเขาไฟจะยังคงถูกประกาศเป็นเขตห้ามบิน แต่จะมีการอนุญาตให้มีการบินเป็นวงกว้างขึ้นในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของ ควันเถ้าถ่านภูเขาไฟต่ำ ซึ่งจะยึดตามการประเมินของประเทศนั้นๆ และข้อแนะนำทางวิทยาศาสตร์
ข้อตกลงดังกล่าวสร้างความหวังในทางบวกให้สายการบินต่างๆ ที่กำลังผิดหวังกับสถานการณ์จากการที่ต้องขาดทุนมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ (ราว 8,250 ล้านบาท) ต่อวัน โดยเที่ยวบินขนส่งสินค้าก็สามารถกลับมาบินได้บางส่วนแล้ว
นายคามีล ออยร์ลิง รัฐมนตรีคมนาคมเนเธอร์แลนด์ ให้สัญญาว่าเนเธอร์แลนด์จะรับบทบาทนำในการแก้ปัญหาให้กับยุโรป แต่ระบุว่าอาจจะต้องประกาศปิดน่านฟ้าของตนอีกครั้งหากระดับของควันเถ้าถ่าน ภูเขาไฟเพิ่มขึ้นอีก ด้านเยอรมนียังคงประกาศปิดน่านฟ้าส่วนใหญ่ของประเทศจนกระทั่งถึงเวลา 12.00 น. ตามเวลามาตรฐานเมืองกรีนิชหรือจีเอ็มที (ตรงกับ 19.00 น.ในไทย) ขณะที่ฝรั่งเศสระบุว่าได้ทำการเปิดสนามบินบางแห่งเพื่อระบายผู้โดยสารที่ติด ค้างในกรุงปารีส นอกจากนี้ อิตาลีได้ประกาศเปิดน่านฟ้าตั้งแต่เวลา 06.00 น.ตามเวลาจีเอ็มที (ตรงกับเวลา 13.00 น.ในไทย)
ทั้งนี้ ยูโรคอนโทรล หน่วยงานด้านการสัญจรทางอากาศของยุโรประบุว่า คาดว่าจะมีเที่ยวบินถึง 9,000 เที่ยวซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของเที่ยวบินปกติที่สามารถทำการบินได้ในวันที่ 19 เมษายน
|
|
|
ชม ภาพได้ ที่ยูทูป
|
http://www.youtube.com/results?search_query=volcano+iceland&aq=0sx