ReadyPlanet.com


โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ คำนึงถึงชุมชนและพร้อมรับฟังข้อห่วงใย


 

จากกรณีการเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ที่หน้ากระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬานั้น กระทรวงพลังงาน และ กฟผ. ขอชี้แจงว่า การดำเนินโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ คำนึงถึงความห่วงใยของชุมชน และการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ในทุกมิติของจังหวัดกระบี่ จึงดำเนินการด้วยความรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ โครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการ วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(คชก.)  สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามขั้นตอนของกฎหมายสิ่งแวดล้อมโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เริ่มออกแบบและรับฟังความคิดเห็น 3 ครั้ง (ค.1 ค.2 ค.3) ทั้งในส่วนโรงไฟฟ้าและท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหิน ตั้งแต่ สิงหาคม 2555 ถึง ตุลาคม 2557 ซึ่งได้มีการปรับปรุงตามข้อเสนอของชุมชน ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว ประมง เกษตรกรรม ตลอดจนนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงยุทธศาสตร์ของจังหวัด ที่มุ่งสู่การเป็นเมืองสีเขียว เน้นการท่องเที่ยวและความสวยงามตามธรรมชาติ อาทิ

1.การขนส่งถ่านหิน ด้วยเรือขนส่งขนาด 10,000 ตัน จากต่างประเทศมายังท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้วโดยใช้เรือขนส่งถ่านหินระบบปิด จำนวนไม่เกินวันละ 2 ลำ และใช้เส้นทางเดินเรือเดียวกันกับเรือขนส่งน้ำมันเตาสำหรับโรงไฟฟ้ากระบี่ ปัจจุบัน โดยเส้นทางเดินเรือถ่านหินกับแหล่งท่องเที่ยวกับจุดดำน้ำทุกจุด ห่างกันเฉลี่ยกว่า 10 กิโลเมตร จึงไม่มีผลกระทบต่อแหล่งหญ้าทะเล ปะการัง และที่อยู่อาศัยของพะยูน

2.ท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้วและการขนถ่าย ถ่านหินจากเรือส่งผ่านสายพานลำเลียงไปยังโรงไฟฟ้า กฟผ. ได้ออกแบบเป็นระบบปิดทั้งหมด ดังนั้น จึงไม่มีการฟุ้งกระจายของถ่านหิน และไม่ทำให้ทะเลปนเปื้อนจากถ่านหิน อีกทั้งไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล อาหารทะเล การประกอบอาชีพประมงและวิถีชีวิตชุมชน

3.ในด้านการ ป้องกันผลกระทบจากมลสารทางอากาศและสุขภาพอนามัยของประชาชนนั้น กฟผ. ได้นำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าและระบบกำจัดมลสารที่มีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ ระบบกำจัดก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน ระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ระบบดักจับฝุ่นแบบไฟฟ้าสถิตย์ และระบบดักจับสารปรอท และโลหะหนัก ดังนั้น จึงสามารถควบคุมมลสารที่ระบายจากปล่องของโรงไฟฟ้าได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ยังมีระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่องที่ปลายปล่องของโรงไฟฟ้า และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้า เพื่อติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าตรวจพบว่าเกินกว่าค่าควบคุม จะหยุดเดินเครื่องเพื่อแก้ไขทันที ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนเกี่ยวกับระบบการป้องกันและดูแลสิ่งแวดล้อม

4.โครงการฯ ใช้เทคโนโลยีสะอาดที่ทันสมัยที่สุดเชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน ด้วยระบบเผาไหม้และหม้อต้มไอน้ำระดับ Ultra Super Critical ซึ่งสามารถลดการใช้เชื้อเพลิง และลดการปล่อย CO2 ลงได้ร้อยละ 20นอกจากนี้ กฟผ. ยังกำหนดนโยบายให้โรงไฟฟ้ากระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นแหล่งเรียนรู้ ด้านพลังงานและการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัยของจังหวัดกระบี่ ที่สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ ดังเช่น โรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น และเยอรมนี ซึ่งปัจจุบันประเทศดังกล่าวยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของนัก ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ยังมีความห่วงใยผลกระทบของโครงการ สามารถติดตามการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงพลังงานและ  กฟผ. พร้อมรับฟังข้อห่วงใยและข้อเสนอแนะในการดำเนินงานโครงการต่อไป

 



ผู้ตั้งกระทู้ zippo333 :: วันที่ลงประกาศ 2015-07-16 00:31:55 IP : 110.168.232.129


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.